SCB10X เคาะเปิดสำนักงานใหญ่บนโลก Metaverse ภายในสิ้นปี 65 พร้อมเปิดตัว 3 โซนสำคัญ “Past-Present-Future” ต่อยอดธุรกิจ-บริการการเงิน พร้อมเผยแผนให้บริการตู้ ATM-สาขาธนาคาร-Invetment Center
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด หรือ SCB 10X เปิดเผยในงานสัมมนา “SCB 10X Open House in the Metaverse” ว่า ภายหลัง SCB 10X ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ (Headquarter) บนโลก Metaverse ของ The Sandbox โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2565 ส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะบริษัทแม่ กลายเป็นสถาบันการเงินอันดับต้นๆ ที่เข้าสู่โลก Metaverse และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำในโลกดังกล่าว
สำหรับความน่าสนใจของ Metaverse ที่ทำให้ SCB ตัดสินใจเข้าไปมีส่วนร่วมในโลกเสมือนจริงนั้น เนื่องจากศักยภาพการเติบโตของตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2024 (2567) ขนาดตลาดของ Metaverse จะเพิ่มขึ้นแตะ 800 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26 ล้านล้านบาท)
ขณะที่เดียวกันจะเห็นว่าองค์กรณ์ขนาดใหญ่และแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เริ่มขยับเข้าสู่โลก Metaverse โดยหวังเป็นช่องทางใหม่ในการหาลูกค้า รวมถึงเป็นการสร้างความรับรู้ (Awareness) เกี่ยวกับแบรนด์ ในฐานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (Tech Savvy) และนวัตกรรม
เบื้องต้น Headquarter ของ SCB 10X จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ 1. อดีต (Past) 2. ปัจจุบัน (Present) และ 3. Future (อนาคต) สำหรับ Past จะเป็นโซนแรกที่นำเสนอเกี่ยวกับรากฐานความมั่นคงของ SCB บน Metaverse ด้วยแลนมาร์ค “เยาวราช” ซึ่งเป็นเมืองแห่งการค้าขายที่สำคัญของไทยในอดีต รวมถึงสถานที่ที่ SCB เปิดให้บริการสาขาแรกอีกด้วย
สำนักงานใหญ่ SCB 10X Metaverse
ในส่วนของ Present โซนที่สอง จะเป็นประตูสู่ความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งจะเป็นจุดที่เห็นสำนักงานใหญ่ของ SCB 10X บนโลก Metaverse เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าและเครื่องบิน โดยได้ไอเดียมาจากความเชื่อมโยง (Connectivity) การเป็นเครือข่ายของชุมชน รวมถึงการเป็นสถานที่ที่ไอเดียใหม่ๆ จะถูกสร้างขึ้นในปัจจุบัน
สำหรับ Future จะเป็นโซนสุดท้ายอันเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ สำหรับตึกสูงเพื่อสื่อถึงอนาคตของการเป็นโลกใหม่สำหรับความหวังและแรงบันดาลใจ ส่วนตาราง (Grid) และชั้น (Layer) เพื่อสื่อให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเปิดกว้างสำหรับจินตนาการ
นางมุขยา กล่าวว่า สำหรับสำนักงานใหญ่ของ SCB 10X บนโลก Metaverse ตั้งเป้าหมายเป็นฮับเสมือนจริงของบริษัท ซึ่งสามารถจัดอีเวนท์เสมือนจริงเพื่อนแบ่งปันความรู้ให้แก่ชุมชน อาทิ Happy Hour with Blockchain and Metaverse การจัดประชุมผู้ถือหุ้น การพบปะซีอีโอ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง การเปิดคลาสสอนคริปโทเบื้องต้น รวมถึงแบ่งปันพื้นที่ในการทำงาน
นอกจากนี้ บริษัทวางแผนเปิดให้บริการตู้ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของ SCB บนโลก Metaverse อีกด้วย โดยหวังเป็นสถานที่ที่ผู้ใช้สามารถใช้บริการทางการเงินได้ รวมถึงการเปิดสาขาของธนาคารแบบเสมือนจริง และการเปิดสาขาแนะนำการลงทุน (SCB Investment Center) บนโลกเสมือนจริง
ไม่เพียงเท่านั้น SCB 10X ยังมองเป็นโอกาสสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจและไอเดียต่างๆ ระหว่างผู้สร้าง (Builder) และผู้รังสรรค์ (Creator) เพื่อต่อยอดไอเดียบน Metaverse รวมถึงเป้าหมายการเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนศิลปินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี NFTs Gallery และ NFTs Marketplace ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะต่อยอดไปยังการเปิดโชว์เคสหรือคอนเสิร์ตเสมือนจริง
อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business